ปี๋ใหม่เมืองในเชียงใหม่ เข้าวัดทำบุญ ทศวรรษ ๒๕๐๐
ปี๋ใหม่เมืองในเชียงใหม่ เข้าวัดทำบุญ ทศวรรษ ๒๕๐๐ (1950s)
คอลเลกชันภาพนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก เทศกาลปี๋ใหม่เมือง หรือ สงกรานต์ล้านนา ในช่วง ทศวรรษ 1950s ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หญิงสาวชาวเชียงใหม่ยังคงรักษาการแต่งกายแบบดั้งเดิม ด้วย เสื้อแขนกระบอก ผ้าซิ่นพื้นเมือง เช่นซิ่นต๋าซิ่นตีนจก หรือซิ่นผ้ายกดอกลำพูน และประดับผมด้วยดอกเอื้องหรือปิ่นดอกไม้ไหว เพื่อร่วมพิธีทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และการละเล่นสาดน้ำ แต่กิจกรรมหลักของชาวเหนือยังคงยึดตามขนบธรรมเนียมอันที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน แม้จะมีการเล่นน้ำคลายร้อน แต่หัวใจของปี๋ใหม่เมืองอยู่ที่ การชำระล้างจิตใจ (ไล่สังขาร), การทำบุญอุทิศส่วนกุศล (ตานขันข้าว), และการขอขมาผู้ใหญ่ (พิธีดำหัว) ซึ่งสะท้อนวัฒนธรรมแห่งความกตัญญูและความกลมเกลียวในครอบครัว
🌕 วันสังขานต์ล่อง – 13 เมษายน
เป็นวันที่เริ่มต้นเทศกาลปีใหม่ล้านนา ชาวบ้านจะ “ไล่สังขาร” โดยจุดประทัดหรือยิงปืนตามเวลาที่กำหนดใน ปักกะตืนปี๋ใหม่เมือง เพื่อส่งเคราะห์เก่าออกไป บ้านเรือนจะถูกทำความสะอาดทั้งทางกายภาพและทางจิตวิญญาณ บางบ้านจัด “ต้นสังขานต์” (คานหามประดับดอกไม้ ธูปเทียน) เพื่อลอยน้ำสะเดาะเคราะห์ ในพิธีส่วนตัว สมาชิกในครอบครัวจะนำเสื้อผ้าตัวแทนใส่สลุงหรือสะตวงไปวัด เพื่อสะบัดเคราะห์ริมแม่น้ำ บางพื้นที่เผาเชือกสายสิญจน์ชุบน้ำมัน และบางคนสระเกล้าโดยหันทิศมงคลในปีนั้น พิธีทั้งหมดเน้นความสงบ ความศรัทธา และการเตรียมใจสู่ปีใหม่
🌤️ วันเน่า – 14 เมษายน
แม้ชื่อจะฟังดูไม่น่ารื่นรมย์ แต่ “วันเน่า” มาจากคำบาลีว่า ปูติ แปลว่าเน่าเสีย หมายถึงการชำระล้างสิ่งหมักหมมในใจจากตลอดปี เป็นวันที่เน้น ความสงบ ความสำรวม และการเตรียมของทำบุญ
ชาวบ้านจะขนทรายเข้าวัด ก่อเจดีย์ทรายเพื่อตอบแทนผืนแผ่นดิน งดพูดคำหยาบหรือทำร้ายกัน เพราะเชื่อว่าพฤติกรรมวันนี้จะส่งผลทั้งปี ครอบครัวเตรียมน้ำขมิ้นส้มป่อย ของดำหัว และบางบ้านเริ่มจัด “ต้าวตังสี่” เพื่อบูชาท้าวจตุโลกบาล
🌞 วันพญาวัน – 15 เมษายน
วันพญาวันคือหัวใจของปี๋ใหม่เมือง เป็นวันที่เริ่มต้นศักราชใหม่อย่างแท้จริง ตอนเช้าชาวบ้านจะ ตานขันข้าว อุทิศบุญให้บรรพบุรุษ พร้อมปักตุงบนเจดีย์ทรายที่สร้างไว้ก่อนหน้า
ช่วงบ่ายจะมี พิธีดำหัว ลูกหลานน้อมนำขันน้ำขมิ้นส้มป่อยไปกราบขอขมาผู้ใหญ่ เมื่อได้รับคำอวยพรกลับ จึงถือว่าได้รับพรปีใหม่อย่างสมบูรณ์ แม่ญิงมักแต่งกายด้วยผ้าทอมือสวยงาม ทัดดอกไม้นามปี ในหลายหมู่บ้านยังจัดพิธี “ไม้ค้ำสะหรี” คือเสาไม้ประดับของมงคลค้ำต้นโพธิ์ในวัด แทนความตั้งใจอุปถัมภ์พระธรรมและค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรือง
🌸 วันปากปี – 16 เมษายน
วันสุดท้ายของเทศกาล ถือเป็นการ “เปิดปี” อย่างแท้จริง ชาวบ้านจะทำบุญ เสาใจบ้าน และร่วมพิธี “สืบชะตา” หมู่บ้าน เสริมอายุให้ครอบครัวและชุมชน ช่วงบ่ายยังคงมีการดำหัวพระเถระ ผู้อาวุโส และครูบาอาจารย์ ครัวเรือนจะเตรียมทำ แกงขนุน (แก๋งบ่าหนุน) เชื่อว่าจะ “หนุนชีวิต” ให้รุ่งเรืองตลอดปี เย็นวันนั้นมีพิธี “ต๋ามเตียนปู่จาพระเจ้า” จุดเทียน 3 เล่ม คือ เทียนลดเคราะห์ เทียนสืบชะตา และเทียนโชคลาภ บางบ้านเผา “ขี้สายเท่าอายุ” เพื่อเผาเคราะห์เก่าออกไป พร้อมเพิ่มเส้นหนึ่งเพื่อสืบชะตาใหม่ให้รุ่งเรือง บางพื้นที่ยังตั้ง “ต้าวตังสี่” บูชาท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ทิศ พร้อม “ขวั๊ก” ใส่ของบูชาธรรมดาอย่างกล้วย ข้าวเทียน และน้ำตาล และอีกถาดถวาย พระแม่ธรณี เป็นการเชื่อมโยงระหว่างโลกวิญญาณกับผืนดิน เมื่อเทียนดวงสุดท้ายดับลง ควันธูปลอยขึ้นฟ้า บ้านเรือนเงียบสงบ — และในความสงบนั้นเอง ปีใหม่ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
#aifashionlab #AI #aiartist #aiart #aifashion #aifashiondesign #aifashionstyling #aifashiondesigner #fashion #fashionhistory #historyoffashion #fashionstyling #fashionphotography #digitalfashion #digitalfashiondesign #digitalcostumedesign #digitaldesign #digitalaiart #ThaiFashionHistory #ThaiFashionAI #flux #fluxlora



























































